วิธีประเมินทุนเกษียณอย่างง่ายที่ทุกคนทำเองได้
27/09/2023ขั้นตอนการยื่นภาษีกลางปี ที่ผู้มีรายได้มาตรา 40(5) – 40(8) ต้องรู้จักและเข้าใจ
03/06/2024การวางแผนเกษียณอายุ โดยเลือกใช้ชีวิตที่ บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ (Retirement Home) เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะสำหรับท่านที่ไม่มีลูกหลาน ซึ่งต้องคำถึงถึงเรื่องของผู้ที่จะมาช่วยดูแล ในตอนที่ร่างกายทรุดโทรมไปตามวัย เรี่ยวแรงลดน้อยถอยลง หรืออาจเจ็บป่วยถึงขั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียง
การเลือก Retirement Home เพื่อการเกษียณอายุ จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแผนอนาคตที่มีคุณภาพ บทความนี้จึงขอนำแนวทางบางส่วน ที่ควรใช้พิจารณาในการวางแผนมาแบ่งปันให้ท่านผู้สนใจได้รับทราบ
ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา
- ทำเล/ตำแหน่งที่ตั้งที่เหมาะสม
การเลือกสถานที่ตั้งของบ้านมีความสำคัญมาก ควรพิจารณาปัจจัยเช่น ความใกล้ชิดกับบริการสาธารณะเช่น โรงพยาบาล ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากจะได้ความสะดวกและสอดคล้องกับ Lifestyle แล้ว ยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อันเกิดจากการเดินทางได้อีกด้วย
- ขนาดบ้านที่เหมาะสม
ควรพิจารณาขนาดของบ้าน ให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณในการเกษียณอายุ บ้านที่มีขนาดเล็กค่าใช้จ่ายและบำรุงรักษาจะประหยัดกว่าบ้านขนาดใหญ่ และยังช่วยลดความซับซ้อนในการดูแลรักษาบ้านในวัยที่มีกำลังน้อย - คำนึงถึงสิ่งอำนวยความสะดวก
บ้านเพื่อการเกษียณอายุควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณอายุ อาทิ การมีห้องนอนและห้องน้ำในชั้นเดียวกัน ทางเดิน/พื้นบ้านที่ไม่ต่างระดับ การมีทางลาด ราวจับ พื้นที่ป้องการลื่นล้ม รวมถึงลิฟท์ที่มีขนาดเหมาะสม รองรับทั้งผู้สูงอายุที่ยังเดินเหินได้ด้วยตนเอง ไปจนถึงผู้ที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดินและรถเข็น เป็นต้น - ความเข้ากันได้กับสไตล์ชีวิต และกิจกรรมกับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน
บ้านควรเข้ากันได้กับวิถีชีวิตของแต่ละท่านในวัยเกษียณ โดยเฉพาะในช่วงที่ยังมีกำลังเพียงพอ เช่น การมีพื้นที่สำหรับงานอดิเรก ห้องสมุด ห้องสันทนาการ ทะเลสาบ หรือสวนเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่อาศัย ทั้งนี้ Retirement Home หลายๆ แห่ง ยังมีพื้นที่และกิจกรรมส่วนกลาง ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งอาจช่วยเติมเต็มชีวิตชีวาในวัยเกษียณ ได้เพิ่มขึ้นจากการใช้เวลาอยู่กับตนเองเพียงอย่างเดียว - ความปลอดภัย
ควรพิจารณาความปลอดภัยของบ้าน เช่น ระบบการรักษาความปลอดภัย การใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวัง และการแจ้งเหตุฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้คุณมีความสบายใจในการอาศัยอยู่ โดยไม่ต้องกังวลว่าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตนเองแล้วจะไม่มีผู้ใดทราบและให้การช่วยเหลือ - มาตรการรองรับเมื่อเกิดความเจ็บป่วย
ควรคำนึงถึงความจำเป็นในการดูแลสุขภาพในอนาคต อาทิ การมีทีมแพทย์และพยาบาลภายใน Retirement Home เพื่อรองรับเมื่อมีการเจ็บป่วยเล็กน้อย รวมถึงการตรวจและเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงเรื่องสุขภาพตามวิธีการและความถี่ที่เหมาะสมกับช่วงวัย และเมื่อมีเจ็บป่วยหนักก็ต้องมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลภายนอกที่เหมาะสมได้อย่างทันท่วงที
ตัวอย่างบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทย
1. แบบเช่ารายเดือน/เช่าระยะยาว
สำหรับการเช่านั้น จะมีทางเลือกหลากหลายแบบ หากเช่าเป็นรายเดือนก็มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 – 90,000 บาท ตามสิ่งอำนวยความสะดวกและคุณภาพชีวิตที่แตกต่างกันไป โดยอาจมีกำหนดระยะเวลาการเช่าเป็นระยะยาว เช่น 20 ปี หรือ 30 ปี เป็นต้น ซึ่งก็จะมีเงื่อนไขในการสมัครใช้บริการ หรือการจองคิวที่แตกต่างกันไปแล้วแต่โครงการนั้นๆ เช่น
- ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือเรียกสั้นๆ ว่า “บ้านบางแค” มีให้เลือกแบบอยู่ฟรีซึ่งเป็นแบบพักรวม ซึ่งก็จะไม่เหงาแต่ก็จะขาดความเป็นส่วนตัวไปพอสมควร บ้านบางแคยังมีแบบหอพักเสียค่าบริการห้องเดี่ยว 1,500 บาทต่อเดือน ห้องคู่ 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็เป็นส่วนตัวขึ้นกว่าเดิม และยังมีแบบพิเศษ เป็นบังกะโล เสียค่าแรกเข้าราว 300,000 บาท และเสียค่าน้ำไฟ รายเดือนเพิ่มต่างหาก
- สวางคนิเวศ อยู่ภายใต้การดูแลของสภากาชาดไทย ตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ โดยมีค่าแรกเข้าเริ่มตั้งแต่ 650,000 บาท ไปจนถึง 2,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลที่ตั้งของห้อง โดยที่นี้ถือเป็นต้นแบบของบ้านพักผู้สูงอายุ ที่บ้านผู้สูงอายุหลายโครงการต้องมาศึกษาดูงาน และเป็นอีกทางเลือกที่ไม่แพงจนเกินไป
- Nest Nursing Home มีทำเลที่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และ สมุทรปราการ จัดตั้งขึ้นโดยบุคคลากรทางการแพทย์ จึงสามารถดูแลผู้อยู่อาศัยได้หลายรูปแบบ ดูแลผู้ป่วยพักฟื้นได้ ดูแลผู้ป่วยติดเตียงได้ หรือสามารถจ้างคนดูแลไปประจำที่บ้านของตนเองก็ได้ หากเป็นบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ ราคาเริ่มต้นที่เดือนละ 22,000 บาท โดยจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
- Senior Complex คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังจัดสร้างขึ้น โดยมีสิทธิการอยู่อาศัย 30 ปี ค่าใช้จ่ายประมาณ 1.82 ล้าน – 3.05 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ โดยสามารถจองสิทธิ์ได้เมื่ออายุ 58 ปี โดยต้องมีรายได้หลังเกษียณ 30,000 บาทต่อเดือน และต้องผ่านการคัดเลือก จึงจะสามารถเข้าพักได้ หากสุขภาพทรุด ไม่สามารถช่วยตัวเองก็ต้องย้ายออกจากโครงการครับ
- Wellness City จ.อยุธยา โดยเป็นโครงการของเอกชนซึ่ง นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ เป็นผู้ก่อตั้งโครงการ มีทั้งแบบคอนโดและรีสอร์ท โดยมีสิทธิการอยู่อาศัย 30 ปี ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 5 ล้านบาท ที่นี้รับดูแลสุขภาพ กายภาพบำบัด และมีโปรแกรมล้างพิษตับ โปรแกรมบำบัดโรค NCDs และมีกิจกรรมเพื่อสุขภาพมากมาย
- ศุภวัฒนาลัย (Supalai Wellness Valley) จ.สระบุรี มีทั้งแบบสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี และแบบเช่าตลอดชีพ (ซึ่งผู้เช่าต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี) ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นราว 1.5 – 1.9 ล้านบาท โดยมีค่าส่วนกลางเดือนละ 2,000 บาท มีกิจกรรมหลากหลายอาทิ ไทเก๊ก, ซี่กง, โยคะ, ว่ายน้ำ, สอนทำอาหาร, สอนจัดดอกไม้, กิจกรรมปั้นดิน, กิจกรรมวาดรูป, สอนนวด, สมาธิบำบัด, กิจกรรมสันทนาการ, Walk Rally, ร้องเพลง/เต้นรำ, สอนถ่ายภาพ, บรรยายเรื่องสุขภาพ, สนามพัตต์กอล์ฟ เป็นต้น
2. แบบซื้อขาด
ซึ่งผู้ซื้อจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ในตัวบ้าน โดยมีหลากหลายราคา และหลายทำเล ตัวอย่างเช่น
- วิลล่า มีสุข จ.เชียงใหม่ มีค่าใช้จ่ายราว 4–6.7 ล้านบาท โดยมีตัวเลือกตั้งแต่เป็นคอนโด ไปจนถึงวิลลาติดริมทะเลสาบ บรรยากาศดีๆ และมีบริการสำหรับผู้เกษียณอายุที่ครบครัน เรียกได้ว่าหากมีกำลังจ่าย ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่อยู่สบายเลยทีเดียว
- Jin Wellbeing County จ.ปทุมธานี เป็นคอนโดผู้สูงอายุ มีหลายขนาด หลายราคา แบบซื้อขาดมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท แต่ก็มีแบบเช่าด้วย โดยค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่เดือนละ 33,300 บาท ซึ่งราคานี้มีรวมอาหารเช้า ซักรีด ทำความสะอาด มีเจ้าหน้าที่ดูแล 24 ชั่วโมง เรียกว่าครบถ้วนเลยครับ
บทสรุป
จากข้อมูลในบทความข้างต้น ผมหวังว่าจะช่วยให้ท่านผู้พอเห็นภาพทางเลือกสำหรับการวางแผนใช้ชีวิตวัยเกษียณที่ Retirement Home ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ซึ่งนอกจากตัวอย่างข้างต้น บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุก็ยังมีแนวโน้มเกิดขึ้นใหม่อีกจำนวนมาก ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากภาวะ “สังคมสูงอายุ” ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับทุกท่านที่สนใจด้วย
ในแง่ของการวางแผนการเงินนั้น ท่านที่สนใจเลือกใช้ชีวิตวัยเกษียณที่ Retirement Home ก็จะต้องเตรียมเงินไว้รองรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ซึ่งอาจได้มาจากการขายบ้านเดิมออกไป เพื่อไปซื้อ/เช่า บ้านพักสำหรับผู้สูงอายุแทน หรือจากการตั้งใจเก็บออมลงทุนเพื่อเตรียมไว้โดยตรงเลย
โดยความเห็นส่วนตัวของผมนั้น จำนวนเงินที่จะต้องเตรียมคร่าวๆ สำหรับการเข้าอาศัยใน Retirement Home (ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า
- หากเป็นโครงการระดับเริ่มต้น ก็ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 2-3 ล้านบาท
- หากเป็นโครงการระดับกลาง ก็ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 5-8 ล้านบาท
- และ หากเป็นโครงการระดับสูง ก็ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 6-14 ล้านบาท
โดยตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงตัวเลขกลมๆ เพื่อให้พอเห็นภาพเท่านั้น ในการวางแผนจริงๆ นั้น ควรต้องมีการเก็บรวบรวมและประเมินโดยละเอียด ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตและทางเลือกของแต่ละท่านที่สุด
ซึ่ง นักวางแผนการเงิน ของ บลป. Avenger Planner รวมทั้งตัวผมเอง ก็สามารถช่วยวางแผนและให้คำแนะนำในเรื่องนี้ได้นะครับ เพราะ การวางแผนเกษียณอายุ นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของ แผนการเงินแบบองค์รวม ที่พวกเราให้บริการ ท่านที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและสมัครใช้บริการได้ที่ Link นี้เลยครับ
หมายเหตุ ข้อมูลและค่าใช้จ่ายของ Retirement Home ต่างๆ ที่นำมายกตัวอย่างในบทความนี้ ทำการรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อกำหนดของแต่ละโครงการ