รวม 11 แหล่งเงินทุนและสวัสดิการเพื่อเกษียณอายุ
18/07/2023พอร์ตกองทุนรวมติดลบ เพราะอะไรกันนะ ?!
04/08/2023ถ้ามีใครบอกให้ “แบ่งเงิน แยกไปหลายๆ บัญชี” หลายคนมักตั้งคำถามว่า “จะลำบากทำทำไม แค่มีเงินใช้ก็พอแล้ว” เพราะทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ทั้งรับ จ่าย โอน หรือออมในบัญชีเงินฝากเพียงบัญชีเดียวก็สะดวกดี
บทความนี้จะพาทุกท่านไปไขข้อข้องใจ ว่าการแบ่ง/แยกบัญชี คืออะไร ถ้าไม่ทำจะเกิดปัญหาอะไรบ้าง ทำแล้วมีประโยชน์แค่ไหน และ มีขั้นตอนการทำอย่างไร
คืออะไร ?
การแบ่ง/แยกบัญชี คือ การแบ่งเงินหรือเปิดบัญชีแยกออกมาเป็นส่วนๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน เช่น บัญชีเงินออม บัญชีจ่ายหนี้ บัญชีใช้จ่าย และบัญชีเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะอื่นๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน
ทำแล้วได้อะไร ?
การแบ่ง/แยกบัญชี จะช่วยลด หรืออาจถึงขั้นแก้ไขปัญหา เรื่องที่บางคนเก็บเงินไม่ได้ และบางคนมีเงินไม่พอใช้เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ทั้งๆ ที่ตอนรับเงินเดือนมาก็ดูเหมือนจะได้มามากอยู่
การแบ่ง/แยกบัญชี ทำให้เงินไม่ปนกันมั่ว ทำให้รู้ว่าเงินจำนวนนี้เอาไว้ทำอะไรกันแน่ และควรจัดสรรให้อะไรก่อนหลัง ซึ่งพอแยกเป็นสัดเป็นส่วน ก็ทำให้บริหารจัดการเงินในแต่ละเดือนได้ดีขึ้น
ทำอย่างไร ?
การแบ่ง/แยกบัญชีไม่ยากอย่างที่คิด โดยเมื่อได้รับเงินมา ให้แบ่งเงิน/แยกบัญชีออกเป็นสัดเป็นส่วน
อาจเริ่มต้นจากการแบ่งเป็น 4 บัญชี โดยแบ่งตามลำดับ ดังนี้
- บัญชีเงินเดือน มีไว้รับเงินเดือนหรือรายได้เท่านั้น ไม่ใช้ปนเป็นบัญชีใช้จ่ายและบัญชีเงินออม เพราะอาจทำให้ใช้เงินเพลินหรือนำเงินออมออกมาใช้แบบไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันก็ทำให้ติดตามได้ง่าย ว่าเงินเดือน/รายได้ เข้าบัญชีหรือยัง เข้ามาแล้วเท่าไร สะสมทั้งปีเป็นเท่าไร
- บัญชีเงินออม มีไว้เก็บออมตามเป้าหมายทางการเงินต่างๆ โดยเฉพาะ เช่น เงินออมเผื่อฉุกเฉิน เงินออมเพื่อท่องเที่ยว โดยเมื่อได้รับเงินเข้าบัญชีเงินเดือน ให้แบ่งมาที่บัญชีเงินออม อย่างน้อย 10% ของรายได้ทันที ก็จะช่วยสร้างนิสัยออมก่อนใช้และทำให้มีเงินออมถูกแยกออกมาอย่างชัดเจน
- บัญชีจ่ายหนี้ มีไว้จ่ายหนี้และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หลังจากหักเงินเข้าบัญชีเงินออม ก็ให้โอนเงินเข้าบัญชีจ่ายหนี้ ร่วมกับการสมัครบริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติจากบัญชีนี้ ก็จะทำให้จ่ายบิลต่างๆ ได้ครบทุกบิล และตรงตามกำหนดอย่างแน่นอน
- บัญชีใช้จ่าย มีไว้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายส่วนตัว บัญชีสุดท้ายนี้ หากแบ่งเงินอื่นๆ ในลำดับก่อนหน้าไว้ดีแล้ว ก็สามารถใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องควบคุมในรายละเอียดมากนัก ขอเพียงใช้ให้พอในเดือนนั้นๆ ถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือในบัญชีนี้ ก็ยังสามารถย้ายไปออมเพิ่ม หรือไปจ่าย (โปะ) หนี้เพิ่มได้
โดยหากเรามีวัตถุประสงค์การใช้เงินที่หลายหลายกว่า 4 บัญชีนี้ ก็สามารถเพิ่มจำนวนบัญชีขึ้นได้อีก เช่น
- บัญชีเงินสำรองเพื่อบุพการี
- บัญชีเพื่อการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย/ซื้อความสุข
- บัญชีเพื่อการกุศล
ใช้เทคโนโลยีทางการเงินให้เป็นประโยชน์
ซึ่งปัจจุบันนี้บริการทางการเงินก้าวหน้าไปมาก เราสามารถนำมาประยุกตใช้ให้เหมาะกับเรา เช่น
- การเปิดบัญชีเงินฝากเพิ่มก็ไม่ยุ่งยาก สามารถเปิดผ่านช่องทางออนไลน์หรือ Application ของธนาคารได้ ทั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องไปสาขา บางบัญชียังได้ดอกเบี้ยเพิ่มมากกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติด้วย
- หากต้องการเปรียบเทียบบัญชีเงินฝาก ที่มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด ก็สามารถเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์เงินฝากของแต่ละธนาคารได้ที่ เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
- การโอนย้ายเงินไปยังบัญชีต่างๆ ก็สามารถตั้งรายการโอนล่วงหน้า โดยตั้งให้เป็นรายการประจำ ที่ทำซ้ำอัตโนมัติทุกเดือนได้ เพื่อช่วยให้เงินถูกแบ่งอย่างอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพึ่งพิงวินัยส่วนตัวมากนัก แบบที่พอเงินเข้าบัญชีเงินเดือนปุ๊บ ก็จะถูกแบ่งไปตามที่ตั้งไว้ปั๊บเลย
บทสรุป
การแบ่งเงิน/แยกบัญชี ตามที่ได้เขียนถึงข้างต้นนั้น หากมองเป็นเรื่องเล็ก ก็อาจเป็นเรื่องเล็กจริงๆ
แต่สิ่งเล็กที่ทำเป็นประจำ ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน อย่างน้อยก็เป็นความพยายามที่จะนำพาชีวิตการเงินไปในทางที่ดีขึ้น
ซึ่งผู้เขียนมั่นใจ ว่าถ้าท่านผู้อ่านเริ่มแบ่ง/แยกบัญชีตั้งแต่วันนี้ จะมีเงินเก็บตามที่ตั้งใจ จ่ายหนี้ได้ตรงตามเวลา และมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาใช้เงินเดือนชนเดือน หรือไม่มีเงินเก็บ ที่เคยหลอกหลอนชีวิตในแต่ละวันอีกต่อไป
แต่ถ้าท่านผู้อ่าน ต้องการการเปลี่ยนแปลงทางการเงินแบบชุดใหญ่ ซึ่งลำพังการแบ่งเงิน/แยกบัญชีอาจไม่เพียงพอ ก็สามารถใช้บริการวางแผนการเงินจากพวกเรา Avenger Planner ได้นะคะ
เราแนะนำได้ครอบคลุมทั้งเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ เรื่องระยะสั้น ไปจนถึงเรื่องระยะยาว ที่สำคัญคือบริการฟรีด้วยค่ะ สนใจใช้บริการก็สมัครได้เลยที่ Link นี้นะคะ