3 ความเสี่ยงต้องรู้ ก่อนลงทุนในสหกรณ์
15/08/20235 สิทธิรักษาพยาบาลพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้
20/09/2023หลายคนอาจกำลังมีเป้าหมายที่จะซื้อ “รถคันแรก” ซึ่งไม่ว่าจะซื้อเพื่อประโยชน์ใช้สอยล้วนๆ หรือจะซื้อเพื่อเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จอีกขั้นในชีวิต ยังไงก็ต้องวางแผน เพื่อจะได้สามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างสบายใจและตลอดรอดฝั่ง
ผมในฐานะที่เป็นนักวางแผนการเงิน และก็มีประสบการณ์ซื้อรถใหม่ รวมทั้งรถมือสองมาระดับหนึ่ง จึงอยากขอเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นข้อคิดให้กับทุกท่าน เผื่อเอาไว้ไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการเงินเกี่ยวกับเรื่องนี้กันครับ
รถคันแรกควรซื้อรถใหม่ หรือรถมือสองดี ?
หากการเงินพร้อม คือดาวน์ไหว ผ่อนไหว รถคันแรกผมแนะนำว่าให้ซื้อรถใหม่ไปดีกว่าครับ
ส่วนตัวผมใช้รถมือสองมาหลายสิบคัน และก็ช่วยดูรถมือสองให้เพื่อนๆ อยู่หลายหน บางอย่างก็ซ่อมเองบ้าง เปลี่ยนอะไหล่เองบ้าง มีประเด็นที่อยากชวนพิจารณาดังนี้ครับ
- สภาพรถมือสองนั้น หากตาดีได้ ตาร้ายก็เสีย แม้ผมจะดูรถเป็นมาเป็นร้อยๆ คันก็ตาม ก็ยังเคยพลาด และไม่มั่นใจด้วยว่าจะไม่พลาดอีก ยิ่งถ้าท่านผู้อ่านเป็นมือใหม่เลย ยิ่งมีโอกาสพลาด
- การซ่อมบำรุงรถมือสอง อาจทำให้เสียเวลา เสียงานเสียการ และเสียเงินทองมากกว่าที่คิด ครั้งหนึ่งผมซื้อรถมือสองสภาพดีมา แม้จะมีการปรับปรุงและซ่อมบำรุงเบื้องต้นไปแล้วก็ตาม แต่รถเจ้ากรรมก็ดันเสียกระทันหันตอนกำลังเดินทางเพื่อไปเจอลูกค้า ซึ่งทำให้เสียงาน เสียเวลา และเสียเงินไปพร้อมๆ กันเลย หรือสมัยแรกๆ ที่เพิ่งเข้าวงการก็โดนอู่ (ที่รู้จักกันด้วยซ้ำ) หลอกฟันค่าซ่อมและอะไหล่ไปหลายตังค์
- การผ่อนรถมือสอง จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่ารถใหม่ เช่น ดอกเบี้ยรถมือสองจะแพงกว่ารถใหม่ และต้องมีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) บวกเข้าไปจากราคาที่ประกาศขาย
- ค่าใช้จ่ายในการใช้งานก็ยังอาจจะสูงกว่าด้วย อย่างแรกเลยคืออาจต้องมีค่าซ่อมเมื่อซื้อรถมาแรกๆ และมีซ่อมจุกจิกบ้างในระยะต่อมา ในขณะที่รถใหม่นั้น มักจะมาพร้อมวารันตีจากศูนย์ พร้อมแพ็คเกจการบำรุงรักษาฟรี ที่มักแถมให้อีกหลายปี ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็มักจะมีแถมให้ ขณะที่รถมือสองต้องซื้อเอง
นั่นทำให้รถมือสองที่มองเผินๆ เหมือนจะประหยัดกว่า แต่บางทีพอบวกโน่น บวกนี่เข้าไป ก็อาจไม่ต่างกันมาก แต่หากจำเป็นต้องซื้อรถมือสองจริงๆ ก็ขอให้พิจารณาทั้ง 4 ข้อข้างต้นให้ดีก่อนนะครับ
แล้วถ้าจะซื้อรถคันแรกเป็นรถใหม่ล่ะ ต้องคิดอะไรบ้าง ?
การซื้อรถใหม่นั้น มักจะมีแพ็คเก็จสินเชื่อให้เลือกมากมาย สามารถจะดาวน์ต่ำ หรือกระทั่งไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์เลยก็ยังมี (มักเรียกในภาษาการตลาดว่า “ฟรีดาวน์”) หรือจะเลือกแบบผ่อนยาวๆ ค่างวดต่ำๆ ก็มี แถมดอกเบี้ยก็ยังถูกกว่าการซื้อรถมือสอง
แม้จะฟังดูดี แต่ก็เป็นดาบสองคม ขอให้ระมัดระวังอย่าหลงติดกับดัก ดังที่เห็นในสื่อต่างๆ เรื่องหนี้เสีย (NPL) ของรถนับล้านคัน เนื่องจากผู้ซื้อผ่อนชำระไม่ไหว โดยต้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้ก่อนครับ
1. ควรรู้รายรับ รายจ่าย ทั้งที่ต้องจ่ายรายเดือนและรายปีของเราก่อนที่จะซื้อรถ
หลายคนอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องรู้ละเอียด และใช้วิธีคาดคะเนเอาคร่าวๆ จึงคิดว่าไหว สุดท้ายพอไม่ไหวก็กลายเป็นปัญหา ซึ่งจากประสบการณ์การเป็นนักวางแผนการเงินของผมนั้น ลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องหนี้กว่า 90% ไม่รู้รายรับ รายจ่ายของตัวเอง จึงเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น
2. หนี้ที่ผ่อนทุกเดือนบวกหนี้ผ่อนรถ (ที่กำลังจะผ่อนเพิ่ม) รวมกันไม่ควรเกิน 40% ของรายได้
เช่น เราต้องผ่อนบ้านเดือนละ 6,000 บาท แล้วต้องผ่อนรถอีก 6,000 บาท รวมเป็น 12,000 บาท แต่รายได้เราต่อเดือนเพียง 24,000 บาท คิดเป็นการผ่อน 50% ของรายได้ (มาจากค่างวด 12,000 หารด้วยรายได้ 24,000) แบบนี้ก็ยังไม่ควรซื้อ
โดยอัตราส่วนนี้เรียกว่า “อัตราส่วนการชำระคืนหนี้สินจากรายได้” หรือ “Debt Service Ratio (DSR)” ค่าไม่ควรเกิน 40% เพราะเกินกว่านั้น จะเหลือเงินไปกินใช้ในเรื่องอื่นๆ น้อยเกินไป และระยะยาวจะหนักจนจ่ายหนี้ไม่ไหว
3. จากข้อ 2 แม้ยอดผ่อนต่อเดือนจะน้อยกว่า 40% ของรายได้ แต่ถ้าจำนวนเงินรวมที่เหลือตลอดทั้งปีมีน้อยมาก ก็อาจทำให้ไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดเป็นประจำ
ซึ่งได้แก่ ค่าซ่อมบำรุง ค่าต่อทะเบียน/ภาษี ค่าประกันรถ ค่าน้ำมัน ค่าจอดรถ เป็นต้น
เช่น ทุกเดือนเหลือเงินประมาณ 1,000 บาท ทั้งปี 12,000 บาท หากครบปีต้องจ่ายค่าประกันและต่อทะเบียนราคา 15,000 บาท ก็จ่ายไม่ไหวแล้ว แบบนี้ก็ควรชะลอการซื้อออกไปก่อน
4. หากประเมินแล้วยังผ่อนไม่ไหว การเช่ารถ หรือใช้รถสาธารณะทดแทนไปก่อน พอจะตอบโจทย์ชีวิตเราหรือไม่
กรณีนี้ต้องลองคำนวณหาตัวเลขมาเปรียบเทียบดู ผมขอยกตัวอย่างเพื่อนผมคนหนึ่ง
- ทำงานประจำ เดินทางไปกลับ Office ในกรุงเทพฯ วันจันทร์-ศุกร์ เสาร์อาทิตย์มีพักผ่อนเที่ยวห้างบ้าง เที่ยวต่างจังหวัดเป็นบางครั้ง ระหว่าง Office กับบ้านอยู่ห่างกัน 15 กิโลเมตร
- ค่าเดินทางของทุกวันคือ ค่ามอเตอร์ไซค์ 15 บาท ค่ารถไฟฟ้า 40 บาท ส่วนขากลับก็ราคาเท่ากัน ใน 1 วันก็จะใช้จ่ายเพื่อเดินทาง 80 บาท สัปดาห์ละ 400 บาท เดือนละ 1,600 บาท
- บางทีขึ้น Taxi บ้าง 500 – 1,000 บาท ส่วนเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ก็จะหารค่าน้ำมันกันประมาณ 2 เดือน/ครั้ง ก็จะมีค่าใช้จ่ายเดินทาง เฉลี่ยประมาณ 2,000 – 3,500 ต่อเดือน
ซึ่งก็จะได้ตัวเลขที่จะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ นั่นคือหากเขาซื้อรถที่ผ่อนต่อเดือนเกินกว่า 3,500 บาท ก็จะมีภาระที่หนักขึ้น ถ้ายังไม่พร้อมก็อาจต้องยอมรับการเดินทางแบบนี้ไปก่อน เพราะที่จ่ายอยู่ ณ ปัจจุบันนั้น ถือว่าต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับซื้อรถ (ต่อให้เป็นรถมือสองก็ตาม)
แต่ถ้ามองว่าไหว แลกกับความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น อย่างน้อยก็ได้มีตัวเลขค่าใช้จ่ายเดิมให้ได้เปรียบเทียบก่อนจะตัดสินใจ
5. หากประเมินแล้วคิดว่าซื้อไหว ก็ควรเลือกจัดไฟแนนซ์ หรือเลือกแพ็คเก็จสินเชื่อให้เหมาะสม
เช่น กรณีเลือกได้ว่าจะดาวน์น้อยหรือดาวน์มาก ก็ควรเลือกดาวน์ให้มากพอที่จะได้โปรโมชั่นดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งโดยทั่วไปหากดาวน์ได้ 20-30% ของราคารถ ก็มักจะได้ดอกเบี้ยอัตราที่ดีมากๆ แล้ว การดาวน์มากกว่านี้ก็มักจะไม่ได้ดอกเบี้ยที่ถูกลงไปสักเท่าไร
แต่บางกรณีก็ดาวน์เพิ่มได้ ถ้าต้องการจะกดให้ค่างวดต่ำลงเพื่อจะได้ผ่อนสบายๆ หรือจะขยายงวดให้ยาวขึ้นก็เป็นอีกทางเลือก ซึ่งแน่นอนว่าดอกเบี้ยจ่ายตลอดสัญญาจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้กระแสเงินสดไม่ตึงมือเกินไปเช่นกัน
บทสรุป
เขียนมาถึงจุดนี้ บทความก็เริ่มจะยาว และมีรายละเอียดมากแล้วนะครับ นี่ยังไม่ได้ลง Detail เรื่องการคำนวณดอกเบี้ยและค่างวดต่างๆ เลย ผมจึงจะขอจบข้อคิดหลักๆ ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ
เรื่องการเงินก็เป็นเรื่องละเอียดแบบนี้ล่ะครับ ถ้าเราใส่ใจลงรายละเอียดกับมันได้ เราก็จะตัดสินใจได้รอบคอบมากขึ้น ไม่ใช่ทำไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ทีหลังเมื่อเกิดปัญหา ดังนั้นก็อยากเชิญชวนให้ทุกคนให้เวลากับการศึกษาเรื่องนี้นะครับ
หรือถ้าศึกษาแล้วยังสงสัย ยังตัดสินใจไม่ได้ ก็อยากเชิญชวนมารับคำแนะนำจากนักวางแผนการเงินทีม Avenger Planner ได้นะครับ พวกเราช่วยแบ่งเบาเรื่องการเงินให้ได้ครับ ทุกเรื่องที่เขียนในบทความนี้ พวกเราช่วยประเมินและและนำให้ได้ทั้งหมด
แถมยังสามารถช่วยวางแผนเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องซื้อบ้าน ค่าใช้จ่ายบุตร แผนเกษียณ ลดหย่อนภาษี เรื่องการจัดพอร์ตลงทุนต่างๆ ก็แนะนำได้เบ็ดเสร็จ โดยนักวางแผนการเงินประจำตัวที่ท่านจะได้รับจัดสรรให้ เมื่อสมัครใช้บริการ
สามารถศึกษาข้อมูล และสมัครใช้บริการได้ที่ Link นี้นะครับ จะ Request ผมเพื่อเป็นผู้ให้บริการก็ได้นะครับ ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ